เป็นที่ทราบกันดีว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจหลากหลาย หนึ่งในธุรกิจที่น่าจับตามองและเติบโตสวนกระแสก็คือธุรกิจคลังสินค้า ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องถึงแม้สถานการณ์จะคลี่คลายในอนาคต
แล้วเหตุใดถึงต้องใช้คลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse) เพราะคลังสินค้าอัจฉริยะจะช่วยจำแนก เคลื่อนย้าย จัดเก็บและขนถ่ายสินค้าด้วยระบบอัตโนมัติ ตลอดจนจัดสินค้าตามออเดอร์ ช่วยลดขั้นตอน ทำให้การจัดเก็บมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยี เช่น หุ่นยนต์รถลำเลียงสินค้าอัตโนมัติ (Automated Guided Vehicle: AGVs) และหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (Autonomous Mobile Robot: AMR) ข้อมูลของ International Federation of Robotics (IFR) คาดการณ์ว่า ยอดขายของหุ่นยนต์ที่ใช้งานด้านโลจิสติกส์ในปี 2021-2023 จะเติบโตราว 42% ต่อปี จากมูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 สู่ 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 นอกจากนี้ การใช้ระบบซอฟต์แวร์อย่าง Warehouse Management System (WMS) ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อระบบอัตโนมัติภายในคลังสินค้าแบบครบวงจรและสามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ เช่น ERP, บาร์โค้ด และ RFID ในการเก็บบันทึกข้อมูลแบบเรียลไทม์ ก็สามารถช่วยนำไปวิเคราะห์วางแผนธุรกิจในอนาคตได้ง่ายขึ้น