eNewsletter 8
  • ในช่วงแห่งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ธุรกิจเครื่องสำอางกลับโตสวนกระแส สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการและการเติบโตทางการตลาด
  • กลยุทธ์ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน คือผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • การตลาดออนไลน์กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่แบรนด์ความงามส่วนใหญ่เลือกใช้ เพื่อสร้างความสำเร็จและกระตุ้นยอดขาย
         ปัจจุบันนี้มีแบรนด์เครื่องสำอางหรือแบรนด์ความงามเกิดขึ้นมากมาย และถึงแม้การแพร่ ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยังไม่สงบ แต่ธุรกิจเครื่องสำอางก็เติบโตสวนกระแสอย่างมาก สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการและอัตราการเติบโตทางการตลาดอย่างไม่หยุดยั้ง           แบรนด์ความงามขนาดใหญ่ล้วนมีวิธีใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่ครองใจลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น L'Oréal, Yves Rocher, Biotherm, The Body Shop, Clarins, Mistine, Cute Press เป็นต้น ซึ่งผู้ที่สนใจจะเริ่มต้นสร้างแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเองสามารถศึกษาเป็นแนวทาง โดยเราได้ถอดรหัส 10 ไอเดียทางการตลาดสุดปังของแบรนด์ดังมาให้คุณแล้วในบทความนี้
1. กลยุทธ์ Universalization
 แบรนด์ระดับโลกเช่น L'Oréal ใช้กลยุทธ์ Universalization หรือการตลาดที่มีความเป็นสากลในการสร้างความเข้าใจและเคารพความแตกต่าง ซึ่งนำมาสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ความงามเฉพาะบุคคล ปรับ สูตรผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่บนโลก และยังมีศูนย์วิจัยของลอรีอัลซึ่งคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ให้สามารถใช้ต่อยอดไปยังหลายภูมิภาคทั่วโลก
2. ชูจุดยืนด้าน CSR
แบรนด์ความงามจำนวนไม่น้อยเลือกใช้กลยุทธ์เน้นย้ำให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญของส่วนประกอบจากธรรมชาติ และมีจุดยืนในการสนับสนุนสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างชัดเจน เช่น The Body Shop ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์รักสุขภาพและรักษ์โลกในปัจจุบัน
3. กลยุทธ์ Social Listening
ในช่วงโควิดที่ผ่านมา หนึ่งในแบรนด์ความงามที่ใช้กลยุทธ์ Social Listening หรือการฟังเสียงของสังคมได้เป็นอย่างดี คือ Clarins ซึ่งมีบริการให้คำปรึกษากับลูกค้าผ่านวิดีโอคอลซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก และยังให้ความสำคัญกับโซเชียลมีเดีย เช่นการให้แอดมิน Facebook พูดคุยกับลูกค้า ทำให้สามารถค้นพบความต้องการของลูกค้าได้อีกด้วย
4. ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
กลยุทธ์ที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ในปัจจุบัน คือ ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แบรนด์ Yves Rocher มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ความงามจากธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง นำเสนอให้เห็นถึงประโยชน์ ของธรรมชาติในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย  
5. ใช้ส่วนผสมสำคัญที่เป็นตัวชูโรงในผลิตภัณฑ์
 การชูส่วนผสมสำคัญเป็นตัวชูโรงในผลิตภัณฑ์ เป็นอีกกลยุทธ์ที่สร้างความจดจำให้กับผู้บริโภคได้ดี เช่น Biotherm ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ใช้ส่วนประกอบหลักคือแพลงก์ตอน ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นที่ยอมรับใน ระดับโลกด้านการช่วยฟื้นฟูและรักษาสุขภาพผิวให้แข็งแรง ทำให้เกิดภาพจำกับผู้บริโภคในวงกว้าง
6. กลยุทธ์ขยายสาขา
ในยุคดิจิทัลที่การซื้อขายออนไลน์เติบโตมาก แบรนด์ Cute Press กลับใช้ทั้งช่องทางออนไลน์และสวนกระแสด้วยการขยายสาขาถึง 18 สาขา รวมเป็นทั้งสิ้น 299 สาขาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยตรงผ่านพนักงานขาย สร้างทั้ง Brand Loyalty และภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งให้กับแบรนด์
7. Influencer Marketing  
การทำการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งกลยุทธ์การตลาดที่เรียกว่า Influencer Marketing หรือ Key Opinion Leader (KOL) ที่อาศัยอิทธิพลทางความคิด จึงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและเพิ่มยอดขาย
8. กลยุทธ์รุกออนไลน์         
หลายแบรนด์เลือกใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เพื่อให้ลูกค้าต่างประเทศรู้จักมากขึ้น โดยการนำเสนอสินค้าผ่านหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada หรือ Pinkoi เป็นต้น เมื่อแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นก็ สามารถเลือกใช้ไมโครอินฟลูเอนเซอร์ในการแนะนำ และบอกต่อจนแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นได้
9. การตลาดแบบ Omnichannel
การตลาดแบบ Omnichannel หรือหลายช่องทางป็นการสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อระหว่างโลกออนไลน์กับออฟไลน์ ลูกค้าสามารถใช้โปรโมชั่นได้เหมือนหน้าร้าน ซึ่งสร้างความสะดวกและเร่งการตัดสินใจซื้อของลูกค้าไม่ว่าจะใช้ช่องทางไหน
10. กลยุทธ์สินค้า Exclusive
กลยุทธ์สินค้า Exclusive เป็นอีกกลยุทธ์ที่สร้างความน่าสนใจให้สินค้า ซึ่งร้าน Watsons ได้ใช้กลยุทธ์นี้โดยสร้างแบรนด์ความงามแบบเอ็กซ์คลูซีฟ House Brand ที่พัฒนาขึ้นมาเอง ประกอบกับการทำข้อตกลงกับผู้ผลิตบางรายให้วางจำหน่ายสินค้าเฉพาะที่ Watsons เท่านั้น