ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าไทยพร้อมรับการผลักดันครั้งใหญ่ เมื่อคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติตั้งเป้าการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาด (ZEV) ให้ได้ถึง 725,000 คัน หรือ 30% ของการผลิตยานยนต์ไทยภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573) รวมทั้งระบบนิเวศรองรับทั้งจุดชาร์จไฟและโรงงานผลิตแบตเตอรี่ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในการผลิตยานยนต์ และดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ พร้อมรับกระแสโลกและวิวัฒนาการของนวัตกรรม1 ด้านผู้ผลิตแบตเตอรี่พร้อมขานรับ เมื่อบริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด ลงนาม MOU ร่วมพัฒนาธุรกิจแบตเตอรี่กับบริษัทคอนเทโพรารี แอมเพอเร็กซ์ เทคโนโลยี จำกัด ผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับยานยนต์ชั้นนำของโลกจากประเทศจีนเพื่อร่วมกันพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ลิเธียม รวมถึงระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูง และอาจขยายผลสู่การสร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในเขตพื้นที่ EEC2 ซึ่งจะตอบสนองนโยบายของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติได้อย่างลงตัว
ในขณะเดียวกัน บริษัทฟ็อกซ์คอนน์จากไต้หวันก็แถลงถึงแผนการลงทุนสร้างโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาและไทยในปี พ.ศ. 2565 โดยเริ่มผลิตเพื่อการค้าอย่างจริงจังในปีถัดไป3 ในขณะที่สหภาพยุโรปมีแผนการ Green Deal เพื่อห้ามการจำหน่ายยานยนต์สันดาปโดยสิ้นเชิงภายในปี พ.ศ. 25784 ข่าวการลงทุนของฟ็อกซ์คอนน์นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการส่งเสริมให้ประเทศไทยรักษาที่มั่นในตลาดยานยนต์โลกในอนาคต
ที่มา: 1ฐานเศรษฐกิจ / 2สยามธุรกิจ / 3Techcrunch / 4Nikkei Asia